น้ำมันอาร์แกน (argania spinosa)
#พลังจากพฤกษาทุกครั้งที่สระผม
แชมพู คอนดิชันเนอร์ มาสค์ และสเปรย์น้ำมันบำรุงผม Herbal Essences สูตรอาร์แกนออยล์ มีส่วนผสมของอาร์แกนออยล์แท้ รับรองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านพืชพรรณที่สวนพฤกษศาสตร์หลวง คิว การ์เด้น ลอนดอน
บางครั้งน้ำมันอาร์แกน
ได้รับการขนานนามว่า
ทองคำเหลว
น้ำมันอาร์แกนจากโมร็อคโคคืออะไร
น้ำมันอาร์แกนหรืออาร์แกนออยล์อันเป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งมีถิ่นกำเนิดในโมร็อคโค หญิงชาวโมร็อคโคใช้อาร์แกนออยล์ในการดูแลความงามของพวกเธอมานานหลายศตวรรษ
น้ำมันอาร์แกนบริสุทธิ์จากโมร็อคโค สกัดมาจากเมล็ดของต้นอาร์แกน (Argania Spinosa) อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันอาร์แกนจึงมีการนำมาใช้ดูแลเส้นผมและผิวพรรณอย่างแพร่หลาย ประโยชน์หลักของการใช้น้ำมันอาร์แกนดูแลเส้นผม คือการเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก และยังฟื้นคืนความเงางามที่สูญเสียไป
ด้วยประโยชน์มากมายที่มี น้ำมันอาร์แกนจากโมร็อคโคจึงได้รับการขนานนามว่า 'ทองคำเหลว'
น้ำมันอาร์แกนมาจากไหน
น้ำมันอาร์แกนมีบทบาทอย่างมากในโลกของเครื่องสำอาง สามารถพบได้เฉพาะทางดินแดนแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศโมร็อคโค นอกเหนือจากหน้าที่ตอบสนองความต้องการ ของโลกในการฟื้นฟูผมเสียจากไลฟ์สไตล์ที่ตึงเครียดแล้ว ป่าอาร์แกน ยังทำหน้าที่เสมือนกำแพงกั้นธรรมชาติ ป้องกันการพังทลายของดิน และปกป้องแหล่งน้ำของทะเลทราย โดยองค์การยูเนสโกประกาศให้ ป่าอาร์แกนจัดเป็นเขตพื้นที่สงวนชีวมณฑลตั้งแต่ปี 1998
ทราบหรือไม่ว่าป่าอาร์แกนมีความเฉพาะตัวอะไรอีกบ้าง ที่นั่นมีแพะนักปีนต้นไม้แห่งโมร็อคโค แพะเองก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่าเราจะได้น้ำมันอาร์แกน แพะเหล่านี้จะปีนต้นไม้หาผลไม้แสนอร่อย จากนั้นน้ำมันอาร์แกนก็ถูกสกัดจากเมล็ดและเนื้อในของเมล็ดที่แพะคายทิ้ง ซึ่งนี่คือวิธีการดั้งเดิม ในปัจจุบัน มีการเก็บเกี่ยวผลจากต้นโดยตรง เมื่อเก็บผลได้แล้วก็นำไปอบแห้งก่อนเข้ากระบวนการสกัด น้ำมันอาร์แกนสกัดโดยการกะเทาะเมล็ดอาร์แกนให้เปิดออก แล้วหีบเพื่อให้ได้น้ำมันอาร์แกนสด
น้ำมันที่ได้มาจากเนื้อในของเมล็ดอาร์แกนมีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามมากมาย มีการใช้น้ำมันอาร์แกนดูแลผิวที่แห้ง ริ้วรอย และให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม หลังจากสกัดน้ำมันแล้ว ผลพลอยได้ซึ่งเป็นแป้งข้นๆ ก็จะนำไปจำหน่ายในประเทศเพื่อผลิตเครื่องสำอาง ส่วนเยื่อชั้นนอกก็นำไปเป็นอาหารสัตว์ในหมู่บ้าน และเปลือกก็นำไปเผาเป็นเชื้อเพลิง แทบจะไม่มีอะไรสูญเปล่าเลยจากกระบวนการสกัดน้ำมันอาร์แกน